วัตถุประสงค์ของบทเรียน : เราตองเชื่อฟ
เราต้องเชื่อฟังพระเจ้าและแสวงหาการนำทางและความช่วยเหลือจากพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ เราไม่จำเป็นต้องแสวงหาชื่อเสียงของตัวเอง
หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่พระเจ้าทรงอวยพรโนอาห์กับบุตรของเขาและตรัสว่า “จงมีลูกมีหลานทวีขึ้นจนเต็มแผ่นดินโลก ลูกๆ ของโนอาห์และภรรยาของพวกเขาก็ให้กำเนิดลูกๆ และเติบโตขึ้นมากมาย และแล้วก็มีครอบครัวมากมายเกิดขึ้นในโลกนี้อีกครั้ง
ครอบครัวเหล่านี้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดิน แต่พวกเขาก็ยังคงพูดภาษาเดียวกัน เมื่อพวกเขาเดินทางมาที่ทิศตะวันออก พวกเขาก็พบกับที่ราบของชินาร์ พวกเขากล่าวว่า “มาเถิดให้เราสร้างเมืองสำหรับพวกเรากันเถิด ทำไมเราต้องกระจัดกระจายกันคนละทิศละทาง ให้เราอยู่กันที่นี่อย่างสะดวกสบาย และให้เราสร้างชนชาติของตัวเองให้ยิ่งใหญ่ เราไม่ต้องการที่จะกระจัดกระจายไปทั่วโลก ให้เราสร้างหอคอยที่ยิ่งใหญ่ที่นี่ ให้สูงเทียมฟ้า”
จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เห็นแก่ตัวคิดว่าตัวเองสำคัญ เขาพูดกันว่า “ดูซิเราทำอะไรก็ได้เท่าที่เราต้องการ” ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสร้างหอคอยของพวกเขา พวกเขาทำอิฐและเผาจนแข็ง และเขาได้พบกับดินน้ำมันที่มาฉาบหอคอยนั้นเพื่อให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น
ทุกคนช่วยกันและในที่สุดหอคอยนี้ก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างและสูงมาก วันแล้ววันเล่า อาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่า ตึกสูงระฟ้าก็เริ่มตั้งตระหง่านเหนือที่ราบชินาร์
พระเจ้าก็ได้ทอดพระเนตรสิ่งที่พวกเขาทำ พระองค์รู้ว่าพวกเขากำลังหันหลังให้พระองค์และพวกเขามั่นใจในสติปัญญาของพวกเขาเอง พวกเขาไม่สามารถไปถึงสวรรค์ได้โดยตึกสูงระฟ้านี้ พระเจ้าทรงทราบเสมอว่าพวกเขาจะไม่หยุดที่จะทำโครงการตามความคิดที่โง่เขลาของพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็เป็นคนที่ชั่วร้ายเหมือนกับคนที่มีชีวิตอยู่ก่อนน้ำท่วมโลก
พระเจ้าได้หยุดในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าดีนั้นโดยให้เกิดการสับสนทางด้านภาษา พระเจ้าทำให้เขาพูดภาษาที่แตกต่างกัน ปัจจุบันมีภาษาต่างๆ หลายภาษาที่เราใช้พูดกัน เช่น ภาษาสเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ไทย จีน ฯลฯ แต่ก่อนหน้านี้มนุษย์ได้พูดภาษาเดียวกัน
เช้าวันหนึ่งเมื่อประชาชนมาทำงานที่หอคอยนั้นก็มีสิ่งที่ประหลาดเกิดขึ้น ในทันใดนั้นทั่วเมืองต่างก็พูดกันคนละภาษา ไม่สามารถเข้าใจซึ่งกันและกันได้
มีชายคนหนึ่งได้ถามว่า “ขอเครื่องมือหน่อยได้มั๊ย” อีกคนหนึ่งก็คิดว่าเขาขออิฐ ทุกคนก็มีความสับสนไปหมดจนทำให้พวกเขาท้อใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาพยายามพูดเสียงดังแต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ในที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถทำงานด้วยกันได้ และแล้วการก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงัก
สุดท้ายมีชายคนหนึ่งพูดกับครอบครัวของเขาว่า “นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราสับสนมาก ให้เราย้ายไปที่อื่นกันเถอะ” แล้วคนอื่นก็ทำอย่างเดียวกันนี้ ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป
ในไม่ช้าก็มีการรวมกลุ่มกันของคนที่มีภาษาเดียวกัน คนที่พูดคุยกันรู้เรื่องสามารถสื่อสารกันได้ก็อยู่รวมกัน ในที่สุดก็ไม่มีใครที่มาสร้างหอคอยนั้นต่อไป ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อของ หอบาเบล คำว่า “บาเบล” หมายความว่า สับสน บางคนจึงให้ชื่อหอคอยนี้ว่า หอบาเบล
พระเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงการอวดฉลาดของคนที่หอบาเบล ในที่สุดพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จถ้าพวกเขาไม่สัตย์ซื่อและไม่เชื่อฟังพระเจ้า
เราได้ทำในสิ่งที่ดีแต่อย่างไรก็ตามมันก็จะล้มเหลวถ้าพระเจ้าไม่ได้อวยพร นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องปรึกษาพระเจ้าทุกครั้งเมื่อเรามีแผนงาน ให้เราอธิษฐานมอบแผนงานนั้นกับพระเจ้า พระองค์มีแผนการสำหรับชีวิตของเราทุกคน
![]() | Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License (CC BY-NC-ND 4.0) Copyright © 2023 Rooster Media. Permission is hereby granted, free of charge, to any person obtaining a copy of “Walking With Jesus” (the “Work”) to copy and distribute the Work without modification, strictly for non-commercial purpose |
หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com