พระเยซูสอนเกี่ยวกับความถ่อมใจ

บทเรียนที่ 8

“……ผู้ที่ถ่อมตัวลงจะได้รับการเชิดชูขึ้น”
ลูกา 14:11, 18:14

ลูกา 14:7-11
ลูกา 18:9-14

ในบทเรียนนี้มีอุปมาสองเรื่องด้วยกัน  อุปมานี้ได้สอนเราเกี่ยวกับความถ่อมใจ เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องนี้ว่าพระเยซูต้องการให้เราดำเนินชีวิตอย่างไร

พระเยซูไม่ได้เล่าเรื่องนี้ในเวลาเดียวกัน  แต่ทั้งสองเรื่องก็เป็นเรื่องความถ่อมใจ ดังนั้นเราจะเรียนสองเรื่องนี้ในบทเรียนเดียวกัน

  • ผู้ที่มีความถ่อมใจก็จะเป็นผู้ที่เคารพผู้อื่นด้วย (ลูกา 14:7-10)

วันหนึ่งพระเยซูถูกรับเชิญมาแขกสำหรับอาหารมื้อเย็นที่บ้านของฟาริสี พระองค์ได้มองดูแขกคนอื่นๆ ที่เขากำลังเลือกที่นั่งของพวกเขา พระเยซูรู้ว่าแขกสำคัญก็จะนั่งใกล้กับเจ้าของบ้าน พระองค์มองดูแขกเมื่อพวกเขานั่งลง พวกเขาต้องการนั่งในตำแหน่งที่สำคัญ แขกทุกคนอยากจะให้คนอื่นเห็นว่าเขามีความสำคัญมากแค่ไหน

พระเยซูเห็นว่าคนเหล่านั้นทำอะไร พระองค์ไม่ชอบการกระทำเช่นนี้ พระองค์ไม่ต้องการให้มนุษย์คิดว่าพวกเขามีความสำคัญ พระองค์ต้องการให้พวกเขามีความถ่อมใจ

พระเยซูบอกให้แขกฟังเรื่องราว พระองค์ตรัสว่า เมื่อท่านได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรับประทานอาหาร ท่านต้องไม่นั่งในที่ที่สำคัญที่สุด เพราะอาจจะมีบางคนที่สำคัญกว่าท่านได้รับเชิญมาด้วย เวลานั้นเจ้าของบ้านก็จะบอกท่านว่าขอไปนั่งที่อื่นเถิด เมื่อนั้นท่านก็จะได้รับความอับอายเพราะเจ้าของบ้านบอกให้ท่านย้ายไปนั่งที่อื่น

พระเยซูตรัสว่าเมื่อท่านได้รับเชิญก็จงไปนั่งในที่ที่ต่ำต้อยที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงถึงการให้เกียรติผู้อื่น หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็จะมาเชิญท่านไปนั่งในที่ที่มีเกียรติมากกว่า ท่านก็เป็นที่เคารพและไม่ได้อาย แขกคนอื่นที่มาก็จะให้เกียรติท่าน

ทุกวันนี้มนุษย์ทุกคนอยากที่จะเป็นบุคคลสำคัญ พวกเขาไม่ได้มีความถ่อมใจและไม่ได้แสดงถึงการยอมรับคนอื่น แต่พระเยซูไม่ได้คิดอย่างนั้น พระองค์ไม่ต้องการให้เราคิดว่าเราเป็นคนที่สำคัญ พระองค์ต้องการให้เรายอมรับว่าคนอื่นสำคัญกว่า คนที่มีความถ่อมใจก็จะระลึกถึงคนอื่น คนที่ถ่อมใจจะเป็นคนที่ยอมรับคนอื่น

  • คนที่ถ่อมใจก็เป็นคนที่สัตย์ซื่อต่อตัวเอง (ลูกา 18:9-13)

ในอีกวันหนึ่งพระเยซูก็ได้ตรัสกับประชาชนบางคน พวกเขาคิดว่าตัวเขาเองดีกว่าคนอื่น พวกเขาคิดว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมสำหรับพระเจ้า แต่พวกเขาไม่ได้ยอมรับคนอื่น คนพวกนี้ไม่มีความถ่อมใจ พระเยซูจึงเล่าอีกเรื่องหนึ่งให้เขาฟัง

มีชายสองคนมาอธิษฐานที่พระวิหาร คนหนึ่งเป็นฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ฟาริสีก็พูดเกี่ยวกับตัวเขาเอง เขาทูลพระเจ้าว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหน เขาพูดว่า “พระเจ้า ข้าพระองค์ขอบคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆ………” (11) คนฟาริสีไม่ได้เป็นคนถ่อมใจ เขาไม่ได้สัตย์ต่อตัวเขาเอง

คนเก็บภาษีก็อธิษฐานด้วย เขาไม่ได้บอกพระเจ้าว่าเขาเป็นคนดี แต่เขาพูดว่า “พระเจ้าขอทรงเมตตาข้าพระองค์ที่เป็นคนบาปด้วยเถิด” (13) เขารู้ว่าเขาได้ทำบาปต่อพระเจ้า เขารู้ว่าเขาไม่สมควรได้รับความรักของพระเจ้า เขารู้ว่าเขาต้องการความเมตตาจากพระเจ้า เขาเป็นคนถ่อมใจ และเป็นคนที่สัตย์ซื่อต่อตัวเอง

พระเยซูตรัสว่าพระเจ้าจะทรงยกโทษให้กับคนเก็บภาษี แต่พระเจ้าจะไม่ทรงยกโทษให้กับฟาริสี เพราะเขาไม่ได้ร้องขอความเมตตาจากพระเจ้า

วันนี้เราต้องเป็นคนที่ถ่อมใจ เราต้องมีความถ่อมใจเมื่อเราอธิษฐาน เราต้องไม่ทำให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นคนสำคัญและเราต้องไม่ทำให้พระเจ้าเห็นว่าเราเป็นคนสำคัญ พระองค์ทรงรู้ความคิดและจิตใจของเรา พระองค์ทรงรู้ว่าเราสัตย์ซื่อหรือไม่ เราต้องขอความเมตตาจากพระเจ้า

  • คนที่มีความถ่อมใจจะได้รับการยกย่อง (ลูกา 14:11; 18:14)

ในข้อพระคัมภีร์ท่องจำกล่าวไว้ว่า “……ผู้ที่ถ่อมตัวลงจะได้รับการเชิดชูขึ้น” ซึ่งพระเยซูได้พูดประโยคนี้เมื่อจบคำอุปมา ซึ่งพระองค์หมายถึงว่า ผู้ที่มีความถ่อมใจจะได้รับเกียรติและจะได้รับการเคารพยกย่อง เขาได้รับการยกย่องเพราะว่าคนอื่นให้ความสำคัญสำหรับเขา เขาไม่ได้รับการยกย่องเพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญ

วันนี้ทุกคนต้องมองดูที่ตัวเอง คริสเตียนทุกคนต้องมองอย่างระมัดระวังในความคิดของตนเอง เราต้องถามตัวเองว่า “ฉันคิดว่าตัวเองสำคัญหรือไม่? ฉันคิดว่าฉันสำคัญกว่าคนอื่นหรือไม่  ฉันเป็นคนที่มีความถ่อมใจหรือไม่?

สรุป

     พระเจ้าต้องการให้เราเป็นคนที่ถ่อมใจ และพระเยซูก็สอนให้เราเป็นคนที่ถ่อมใจ บางครั้งก็มีความยากลำบากที่จะถ่อมใจ ซาตานพยายามที่จะทำให้เราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญ เราต้องอธิษฐานขอพระเจ้าที่จะช่วยเรา เราต้องการเป็นเหมือนคนเก็บภาษี เราต้องขอพระเจ้าที่จะเมตตาเรา เมื่อนั้นเราก็จะได้รับการยกชูขึ้น

คำถาม : เติมคำในช่องว่าง

  1. ใครเป็นคนเชิญพระเยซูมารับประทานอาหาร_________________________
  2. ทำไมพระเยซูไม่ชอบการกระทำของแขก เพราะพระองค์ต้องการ________________
  3. ที่ตรงไหนที่พระเยซูต้องการให้นั่ง ที่ๆ มีความ ____________น้อยที่สุด
  4. เราควรจะคิดถึงใครก่อน_______________________________
  5. ใครไปพระวิหารเพื่ออธิษฐาน  _______________ และ ________________
  6. ชายคนไหนที่พระเจ้าทรงยกโทษให้______________________________
  7. ทำไมคนเก็บภาษีจึงมีความถ่อมใจ เพราะเขาไม่ได้โอ้อวดพระเจ้าว่า_________
  8. มีอะไรเกิดขึ้นกับคนที่มีความถ่อมใจ พระองค์จะ_________________

คำภามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคิดและเพื่อการอภิปราย

  1. มนุษย์ในปัจจุบันนี้แสดงออกอย่างไรว่าเขาเป็นคนสำคัญ
  2. มนุษย์จะมีความถ่อมใจได้อย่างไร คุณมีความถ่อมใจหรือไม่
  3. ทำไมคริสเตียนต้องมีความถ่อมใจ
  • เราสามารถแสดงความเคารพคนอื่นได้อย่างไร

ศัพท์สำคัญ

  1. ถ่อมใจ                ลักษณะของคนที่ไม่ได้คิดว่าตัวเขาสำคัญกว่าคนอื่น

ถ่อม                   เป็นการถ่อมหรือเจียมตัว ไม่ได้คิดว่าตัวเองนั้นดีกว่าหรือสำคัญ   กว่าตนเอง

  • ที่ยกย่อง             ทำให้สำคัญ; ให้ความเคารพ; ให้การสรรเสริญ
  • ความนับถือ         มองคนอื่นในแง่ที่ดี; คิดว่าคนมีความสำคัญ
  • ฟาริสี                  ผู้นำทางศาสนาของคนยิว
  • เจ้าภาพ               คนที่ดูแลแขกในบ้านของเขา
  • ละอายใจ             รู้สึกละอายหรือรู้สึกผิด; รู้สึกไม่ดีเพราะทำความผิดหรือทำบาง

สิ่งบางอย่างผิด

  • คนเก็บภาษี          คนที่เก็บเงินภาษีจากประชาชนให้กับประเทศหรือรัฐบาล; (คน                         เก็บภาษีในสมัยพระเยซูร่ำรวยเพราะโกงภาษีประชาชนเขาไม่ชอบและไม่เคารพคนอื่น
  • ความเมตตา        ให้ความช่วยเหลือคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (พระเจ้าทรงเมตตา      

คนบาปโดยที่พระองค์ทรงยกโทษบาปให้พวกเขา คนบาปสม ควรได้รับโทษเนื่องจากบ

ของเขาเอง)

คำสอนของพระเยซู

พิมพ์ครั้งแรกในภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ
“The Teachings of Jesus”
พิมพ์ฉบับภาษาไทยนี้: ฮากิออสพับพลิสซิ่ง และ Global Nazarene Publications
Copyright © J. Wesley Eby

ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้

หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com