บทเรียนที่ 7
“…จงขอแล้วท่านจะได้รับ จงหาแล้วท่านพบ จงเคาะแล้วประตูจะเปิดให้แก่ท่าน”
ลูกา 11:9
ข้อพระคัมภีร์ที่ใช้สำหรับบทเรียน
วันหนึ่ง พระเยซูได้อธิษฐานต่อพระเจ้า สาวกของพระองค์ก็ต้องการจะเรียนรู้ว่าจะอธิษฐานอย่างไร สาวกคนหนึ่งพูดว่า “พระเจ้าของทรงสอนพวกเราอธิษฐานด้วย” แล้วพระองค์ก็ทรงสอนพวกเขา
คำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอนพวกเขาอธิษฐานเรียกว่า “คำอธิษฐานของพระเยซู” ซึ่งปรากฏในข้อที่ 2-4 และเราพบคำอธิษฐานนี้ในพระธรรมมัทธิว 6:9-13 ด้วย เป็นคำอธิษฐานที่เราควรจะเรียนรู้ เป็นคำอธิษฐานที่เราสามารถอธิษฐานได้ทุกวัน
พระเยซูต้องการที่จะสอนสาวกให้อธิษฐาน พระองค์ต้องการให้พวกเขารู้ว่าการอธิษฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ หลังจำที่พระเยซูได้อธิษฐานพระองค์ก็ได้เล่าเรื่องอุปมา เรื่องนี้จะช่วยเราให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการอธิษฐานมากยิ่งขึ้น เราสามารถเรียนรู้บทเรียนสำคัญจากการสอนของพระเยซูเกี่ยวกับอธิษฐาน
- พระเยซูต้องการให้เราปล้ำสู้ในการอธิษฐาน (ลูกา 11:5-8)
พระเยซูตรัสว่าการอธิษฐานนั้นเป็นเหมือนการขอยืมขนมปังจากเพื่อนบ้าน ในคืนหนึ่งมีเพื่อนมาที่บ้านของคุณ เขาเดินมาเยี่ยมคุณ แต่คุณไม่มีอาหารสำหรับเขาเลย ดังนั้นคุณก็เลยไปหาเพื่อนบ้านเพื่อที่จะยืมขนมปังสามก้อน คุณกล้าหรือไม่
คุณไปเคาะประตูเพื่อนบ้าน แต่เขาตอบว่า “อย่ามารบกวนฉัน” เขาพูดอย่างนั้นเพราะเขาและครอบครัวนอนหลับอยู่บนเตียง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นมาหยิบขนมปังให้คุณได้
พระเยซูตรัสว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนบ้านก็ลุกขึ้นจากที่นอน เขาจะให้ขนมปังแก่คุณ เขาให้คุณยืมขนมปังถ้าคุณยืนยันว่าคุณต้องการอาหารและรบเร้าเขา คุณเคาะประตู เคาะแล้วเคาะอีก ขอแล้วขออีก คุณต้องขอจนกระทั้งเขาจะให้ขนมปังกับคุณ คุณจะได้รับสิ่งที่คุณต้องการเพราะคุณมีความกล้าและยืนหยัด
เราสามารถเรียนรู้บทเรียนจากเรื่องนี้ เราต้องมีความกล้าเมื่อเราอธิษฐาน เราต้องไม่กลัวที่จะขอต่อพระเจ้าในสิ่งที่เราต้องการ เราต้องยืนหยัดในการอธิษฐาน เราต้องไม่หยุดในการอธิษฐาน เราต้องไม่หยุดที่จะขอต่อพระเจ้าในสิ่งที่เราต้องการ
- พระเจ้าต้องการให้เราร้องขอต่อพระองค์ในสิ่งที่เราต้องการ (ลูกา 11:9-10)
พระเยซูทรงอธิบายเกี่ยวกับอุปมาเรื่องนี้ พระองค์พูดถึงการขอ การหา การเคาะเมื่อเราอธิษฐาน ถ้าคุณขอคุณได้รับสิ่งที่คุณขอ ถ้าคุณหาคุณก็จะพบในสิ่งที่เรากำลังหา ถ้าเราเคาะ ประตูก็จะเปิดให้กับคุณ
เมื่อเราอธิษฐาน เราสามารถขอพระเจ้าในสิ่งที่เราต้องการ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้ในสิ่งที่เราต้องการ เปาโลได้เขียนจดหมายถึงคริสตจักรในเมืองฟิลิปปี “และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่ท่าน……ในพระเยซูคริสต์” (ฟิลิปปี 4:19) นี่คือขุมทรัพย์แห่งพระวจนะของพระเจ้า เป็นพระสัญญาที่ยิ่งใหญ่
เมื่อเราอธิษฐาน เมื่อเราแสวงหาเราจะพบกับน้ำพระทัยของพระเจ้า คริสเตียนต้องการรู้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของพวกเขาทั้งหลาย เราต้องการทราบว่าสิ่งที่เราขอนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระองค์ พระคัมภีร์กล่าวว่า “…ถ้าเราขอทุกสิ่งสอดคล้องกับน้ำพระทัยพระเจ้า พระองค์จะทรงฟังเรา” (1 ยอห์น 5:14) บางครั้งเราขอในสิ่งที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระองค์ เราต้องแสวงหาน้ำพระทัยพระองค์ และเราต้องอธิษฐานให้สอดคล้องกับน้ำพระทัยพระองค์ พระองค์รู้ดีที่สุดว่าอะไรที่เหมาะสมสำหรับเรา
เมื่อเราอธิษฐาน เราต้องเคาะที่ประตูแห่งอนาคต เมื่อประตูปิดเราก็ไม่รู้ว่าอะไรที่มีอยู่ในด้านอื่นๆ แต่เมื่อประตูเปิดเมื่อนั้นเราก็จะทราบเกี่ยวกับชีวิตของเรา อนาคตของเราที่อยู่อีกด้านหนึ่งของประตู เราไม่รู้อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร แต่เราไม่จำเป็นต้องกลัว พระเจ้าตรัสว่า “เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า…..เป็นแผนการเพื่อให้มีความหวังและอนาคตแก่เจ้า” เราสามารถเคาะประตูแล้วพระเจ้าจะเปิดให้กับเรา เราสามารถวางใจพระองค์สำหรับอนาคตของเรา
- พระเจ้าประทานสิ่งที่ดีให้กับลูกของพระองค์ (ลูกา 11:11-13)
พ่อจะให้สิ่งที่ดีกับลูกของเขา สิ่งที่ให้กับลูกนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำร้ายลูกของเขา เขารักลูกของเขาและต้องการที่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา เขาให้ของขวัญแก่ลูกทั้งๆ ที่ลูกไม่สมควรได้รับ
พระเจ้าเป็นบิดาในสวรรค์ของเรา พระองค์ทรงมีความรักมากมาย พระองค์ทรงรักเรามากกว่าความรักที่เราได้รับจากพ่อบนโลกนี้ พระองค์ไม่เคยหลอกลวงเรา พระองค์ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา พระองค์ทรงให้ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเรา ถึงแม้ว่าเราไม่สมควรได้รับ
บางครั้งเราไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตเรา เรามักจะขอในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับเรา อาจขอสิ่งที่ไม่ดีสำหรับตัวเรา แต่พระเจ้าทรงรู้ เราสามารถวางใจในพระองค์ว่าพระองค์ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา พระองค์เป็นผู้ที่เราไว้วางใจได้เสมอ
สรุป
เราสามารถอธิษฐานต่อพระเจ้าผู้เป็นบิดาของเรา พระองค์ทรงรักเรามาก พระองค์ต้องการให้เรากล้าอธิษฐานต่อพระองค์ พระองค์ต้องการให้เราเพียรพยายามในการอธิษฐาน พระองค์ต้องการให้เราขอ แสวงหาและเคาะ แล้วพระองค์จะประทานของขวัญที่มีค่าสำหรับลูกของพระองค์
คำถาม: เติมคำลงในช่องว่าง
- คำอธิษฐานที่พระเยซูสอนพวกสาวกเรียกว่า_____________________
- พระเจ้าต้องการให้เรามีความ _______________ในการอธิษฐาน
- เราจะต้อง ________ เมื่อเราอธิษฐาน เราต้องไม่ _______ที่จะขอพระเจ้าในสิ่งที่เราต้องการ
- พระเยซูตรัสว่าเมื่ออธิษฐานเราต้อง __________ __________ และ__________
- พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์จะประทานสิ่งที่ ______________
- คริสเตียนต้องแสวงหา ________________ของพระเจ้า
- เราสามารถไว้วางใจพระองค์ได้สำหรับ___________ของเรา
- พระเจ้าทรงเป็น____________ของเรา ทรง _________อยู่ในสวรรค์ พระองค์ทรงประทานสิ่งที่_________แก่เรา เราสามารถเชื่อวางใจในพระองค์ได้ว่าพระองค์จะประทานสิ่ง________ที่สุดสำหรับเรา
คำภามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคิดและเพื่อการอภิปราย
- เรามีความกล้าอย่างไรในการอธิษฐาน เราจะมุ่งมั่นในการอธิษฐานอย่างไร
- เมื่อคุณอธิษฐานขอต่อพระเจ้า พระองค์ประทานอะไรให้กับคุณ
- ทำไมเราต้องแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า
- คุณกลัวอนาคตของคุณรึเปล่า คุณจะไว้วางใจพระเจ้าในเรื่องอนาคตได้อย่างไร
- คุณได้รับอะไรที่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดจากพระเจ้า
ศัพท์สำคัญ
- แสวงหา มองหา , ถามหา , พยายามหา
- ปล้ำสู้ ไม่หยุด ไม่เงียบ ไม่ยอมแพ้
- การหยิบยืม ขอใช้บางอย่างที่เป็นของคนอื่น (มีการตกลงกันว่าจะคืนสิ่งที่ยืมด้วย)
- กล้า ไม่กลัว กล้าหาญ
- น้ำพระทัยพระเจ้า ความต้องการของพระเจ้าที่มีต่อนมุษย์
คำสอนของพระเยซู
พิมพ์ครั้งแรกในภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “The Teachings of Jesus” พิมพ์ฉบับภาษาไทยนี้: ฮากิออสพับพลิสซิ่ง และ Global Nazarene Publications Copyright © J. Wesley Eby | ![]() | ![]() ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้ |
หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com