พระเยซูสอนเกี่ยวกับการรักเพื่อนบ้าน

บทเรียนที่ 6

“….รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
ลูกา 10:27

พระคัมภีร์ที่ใช้ในบทเรียน

ลูกา 10:25-37

เราต้องการทราบสองสิ่งที่จะช่วยเราเข้าใจในบทเรียนนี้ สิ่งแรกคือ ชาวยิวและชาวสะมาเรียไม่คบหาซึ่งกันและกัน ชาวสะมาเรียอาศัยอยู่ใกล้กับชาวยิวแต่ไม่พูดคุยกัน บ่อยครั้งที่ชาวยิวจะไม่เดินผ่านประเทศของคนสะมาเรีย พวกเขาจะเดินอ้อมสะมาเรียถึงแม้ว่าระยะทางจะไกลออกไป

ประการที่สองคือ คนที่มาพูดกับพระเยซูมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบพระเยซู เขารู้กฎหมายยิวเป็นอย่างดี เขาเป็นผู้สอนกฎหมาย เขาเชื่อว่ากฎหมายนั้นสำคัญมาก เขาจึงต้องการจะทราบว่าพระเยซูรู้กฎหมายหรือไม่ เขาจึงถามพระเยซูว่า “ข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้ชีวิตนิรันดร์” (25)

พระเยซูรู้แล้วว่าชายคนนี้ต้องการทดสอบพระองค์ ดังนั้นพระเยซูจึงถามเขาว่า “มีกฎหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร” (26) ชายคนนั้นตอบพระเยซู จากนั้นก็ถามพระองค์อีกว่า “ใครคือเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า” (29) พระเยซูตอบคำถามโดยการเล่าเรื่องอุปมา ในบทเรียนนี้เราจะเรียนคำอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี

  • เราต้องรักพระเจ้าและรักเพื่อนบ้านของเรา (ลูกา 10:25-29)

กฎหมายกล่าวไว้ว่าจงรักพระเจ้า เราต้องรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ จิตวิญญาณ สุดกำลังและความคิด เราต้องรักพระเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด พระเจ้าต้องเป็นที่หนึ่งในชีวิตของเรา

กฎหมายยังกล่าวว่าเราต้องรักเพื่อนบ้านของเรา เราต้องรักเพื่อนบ้านของเราเหมือนรักตัวเราเอง พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทุกคนและมนุษย์ทุกคนก็มีความสำคัญต่อพระองค์ ดังนั้นมนุษย์ทุกคนก็มีความสำคัญต่อเราด้วย

ชายที่มาหาพระเยซูรู้กฎหมายเป็นอย่างดี เขาได้บอกพระเยซูถึงสิ่งที่กฎหมายได้กล่าวไว้และถามพระองค์ว่า “ใครเป็นเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า”พระเยซูทรงตอบเขาโดยการเล่าเรื่อง

  • เราต้องตัดสินใจที่รักเพื่อนบ้านของเรา (ลูกา 10:30-37)

ในวันหนึ่งชาวยิวคนหนึ่งได้ออกเดินทาง เขามาจากกรุงเยรูซาเล็มเพื่อไปยังเมืองเยรีโค มีโจรปล้นและเอาเสื้อผ้าและเงินของเขาไป โจรได้ทิ้งเขาให้ตายอยู่ข้างถนน

ปุโรหิตคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นผู้ชายคนนี้ ปุโรหิตคนนี้เป็นคนยิวและเขาก็เดินหลีกไปทางถนนอีกฝั่งหนึ่ง เขาไม่ได้หยุดเพื่อช่วยเหลือชายที่บาดเจ็บ ต่อมาก็มีคนเลวีเดินผ่านมาเห็นคนบาดเจ็บคนนั้น คนเลวีคนนี้ก็เป็นคนยิวด้วย เขาเดินเข้ามาใกล้คนบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้หยุดและเข้าไปช่วยเหลือคนที่บาดเจ็บนั้นเลย

ต่อมามีคนสะมาเรียคนหนึ่งเดินมาทางชายที่ได้รับบาดเจ็บ คนสะมาเรียไม่ชอบคนยิวและคนยิวก็ไม่ชอบคนสะมาเรีย แต่เขารู้สึกสงสารคนยิวที่บาดเจ็บนั้น เขาจึงหยุดและช่วยเหลือผู้ชายคนนั้น เข้าไปดูแลบาดแผลของเขา แล้วนำเขาไปที่โรงแรม พร้อมทั้งให้เงินกับเจ้าของโรงแรมเพื่อที่จะดูแลผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บนั้น

พระเยซูได้ถามชายผู้สอนกฎหมายว่า “ในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนบ้านของชายที่ถูกปล้นทรัพย์” เขาตอบว่า “คนที่ช่วยเหลือเขา” พระเยซูตรัสว่า “จงไปและทำเช่นนั้นด้วย”

ทุกวันนี้มีหลายคนเป็นเหมือนปุโรหิตและคนเลวี พวกเขาพูดว่าเขารักพระเจ้าและเชื่อฟังพระเจ้า แต่พวกเขาไม่ได้แสดงความรักต่อผู้อื่น การแสดงออกของเขาไม่สอดคล้องกับคำพูดของเขา เขาไม่ได้รักเพื่อนบ้านของเขา

บางคนก็เป็นชาวสะมาเรียผู้ใจดี เขาเห็นถึงความต้องการของผู้อื่น พวกเขาใช้เวลาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เขาได้แสดงความรักและเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

บางครั้งเป็นสิ่งที่ยากในการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ซึ่งมันทำให้เราเสียเวลา บ้างก็เสียเงินทองของเรา หรือบ้างก็เป็นเพื่อนบ้านที่เราไม่ค่อยชอบพอสักเท่าไหร่ เพื่อนบ้านของเราอาจจะเกลียดชังเรา บางครั้งวิญญาณชั่วก็พยายามล่อลวงเราเพื่อไม่ให้เราเชื่อฟังพระเยซู เราต้องจำคำสั่งของพระเยซูที่ว่า “จงไปและทำเช่นนั้นด้วย” เราจำเป็นต้องแสดงออกถึงความรักของคริสเตียนที่มีต่อเพื่อนบ้าน การแสดงออกของเราจะทำให้พวกเขาเห็นถึงความรักของพระเยซู

พระคัมภีร์ไม่ได้บอกเราว่าครูที่สอนพระคัมภีร์จะทำอะไร เราไม่รู้ว่าเขาเชื่อในพระเยซูหรือไม่ เราไม่รู้ว่าเขาตัดใจที่จะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ แต่วันนี้เราสามารถตัดสินใจว่าเราจะเป็นเพื่อนบ้านแบบไหน เราสามารถตัดสินใจว่าเราจะเป็นเหมือนปุโรหิตหรือคนเลวี หรือเราตัดสินใจจะเป็นเหมือนคนสะมาเรีย เราสามารถตัดสินใจที่จะรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง

สรุป

พระเยซูทรงสอนเราว่าเพื่อนบ้านที่ดีคืออะไร เพื่อนบ้านที่ดีต้องรักทุกคน พวกเขารักคนที่ต้องการความรัก พวกเขาช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ การกระทำของพวกเขาได้แสดงถึงความรักของพระเยซู พวกเขาเชื่อฟังคำสอนเรื่องการรักเพื่อนบ้านของพวกเขาจากพระเยซู

คำถาม :เติมคำลงในช่องว่าง

  1. ชายหนุ่มคนนั้นบอกว่าเราต้องรักใคร ________________ และ________________
  2. ชายชาวยิวเขาเดินทางจาก________________ไป_____________________
  3. เกิดอะไรขึ้นบ้างกับชายคนนั้น _______________________________________
  4. มีใครบ้างที่ไม่ได้ช่วยเหลือชายที่ถูกปล้น ____________________และ__________
  5. ใครที่ได้ช่วยเหลือชายที่ถูกปล้น__________________________________
  6. ใครเป็นเพื่อนบ้านของชายที่ถูกปล้น_____________________________
  7. เราต้องแสดงถึงอะไรต่อเพื่อนบ้านของเรา ___________________________
  8. พระเยซูทรงกระทำอะไรเพื่อเรา__________________________________

คำภามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคิดและเพื่อการอภิปราย

  1. ปุโรหิตและคนเลวีเป็นเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ เพราะอะไร
  2. ทำไมคนสะมาเรียจึงเป็นเพื่อนบ้านที่ดี
  3. ใครเป็นเพื่อนบ้านของเรา และวันนี้เราสามารถเป็นเพื่อนบ้านที่ดีได้หรือไม่
  • มีใครบางคนที่คุณไม่ได้รักบ้างมั๊ย คุณสามารถเรียนรู้ที่จะรักคนนั้นได้อย่างไร

ศัพท์สำคัญ

  1. เพื่อนบ้าน       คนที่อาศัยอยู่ใกล้กัน (ในบทเรียนนี้ คำว่าเพื่อนบ้านนั้นรวมถึงทุกคนที่อยู่บนโลกนี้)
  2. คนสะมาเรีย    คนที่อาศัยอยู่ในประเทศสะมาเรีย (สะมาเรียอยู่ใกล้กับคนยิว พวกเขาเป็นเพื่อนบ้านกันแต่เขาไม่ได้รักซึ่งกันและกัน)
  3. เล่ห์เหลี่ยม      หลอกลวง ไม่จงรักภักดี
  4. ปุโรหิต นักการศาสนาหรือผู้นำในคริสตจักรของชาวยิว; เขาเป็นตัวแทนผู้นำข่าวสารจากพระเจ้ามาถึงมนุษย์
  5. เลวี               คนยิวที่อยู่ในครอบครัวของปุโรหิต; นักการศาสนาหรือผู้นำในคริสตจักรของยิว
  6. โรงแรม          สถานที่พักอาศัยสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยว; โรงแรม
  7. การปฏิบัติ      การกระทำ การแสดง สิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติ

คำสอนของพระเยซู

พิมพ์ครั้งแรกในภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ
“The Teachings of Jesus”
พิมพ์ฉบับภาษาไทยนี้: ฮากิออสพับพลิสซิ่ง และ Global Nazarene Publications
Copyright © J. Wesley Eby

ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้

หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com