พระเยซูทรงสอนด้วยคำอุปมา

บทเรียนที่ 1

พระเยซูตรัสตอบว่า “คำสอนของเราไม่ใช่ของเราเอง แต่มาจากพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา…”
ยอห์น 7:16

ข้อพระคัมภีร์ที่ใช้สำหรับบทเรียน
มัทธิว 13:10-17
มัทธิว 51-52

พระเยซูเป็นครูสอนที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงสอนประชาชนเมื่อทรงดำเนินอยู่ในโลกนี้บ่อยครั้งพระองค์ทรงสอนโดยการเล่าเรื่อง โดยที่เรื่องราวนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับคนและสัตว์หลายชนิด เรื่องที่ใช้ในการสอนมักจะมาจากเรื่องราวการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ เรื่องราวเหล่านี้เรียกว่า คำอุปมา ในพระคัมภีร์ตอนนี้เราจะเรียนบางอย่างเกี่ยวกับคำสอนของพระเยซู ที่เรียกว่าคำอุปมา

  • พระเยซูทรงใช้คำอุปมาในการสอนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจเรื่องของแผ่นดินของพระเจ้า
    (มัทธิว 13:10-17)

วันหนึ่งสาวกของพระองค์มาหาพระองค์ พวกเขาถามพระเยซูว่าทำไมพระองค์ทรงใช้คำอุปมาในการสอน พระเยซูตรัสว่าคำอุปมานั้นช่วยให้ประชาชนเข้าใจเรื่องแผ่นดินสวรรค์ พระเยซูได้อ้างอิงถึงพระธรรมอิสยาห์ให้กับสาวกฟังว่า อิสยาห์ซึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิมได้กล่าวไว้ว่า ประชาชนเหล่านั้นที่ได้ยินและได้เห็น แต่บางคนจะไม่เข้าใจ

พระเยซูรู้ว่าประชาชนชอบที่จะฟังเรื่องที่พระองค์เล่าให้เขาฟัง พระองค์รู้ว่าประชาชนจะจดจำเรื่องเล่าได้ดี พวกเขาจดจำเรื่องราวชีวิตประจำวันของเขาได้ดี พระองค์ทรงรู้ดีว่าประชาชนสามารถเข้าใจบทเรียนที่พระองค์สอนในเรื่องนั้นๆ ได้

วันนี้ เราเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเราทุกวันได้ เราสามารถเข้าใจเรื่องความหิวของเด็กๆ ได้ถ้าเราเคยรู้สึกหิวมาก่อน เราสามารถเข้าเรื่องราวเกี่ยวกับการหว่านเมล็ดพืชได้ถ้าเราเคยเพาะปลูกเมล็ดพืช

วันนี้ เราจะได้สนุกกับเรื่องราวเหล่านี้ด้วย และเรามักจะจดจำเรื่องเหล่านี้และเรื่องเหล่านี้ก็จะช่วยเราเรียนรู้ว่าเราควรจะทำอะไร หรือไม่ควรทำอะไร คำอุปมาในพระคัมภีร์สามารถช่วยเราในการเรียนรู้เกี่ยวกับการสอนของพระเยซู

ข. พระเยซูทรงใช้คำอุปมาเพื่อสั่งสอนสาวกของพระองค์ (มัทธิว 13:51)

พระเยซูสั่งสอนสาวกของพระองค์เพื่อให้พวกเขาออกไปเป็นครู พระองค์ต้องการให้พวกเขาสอนประชาชน พระองค์ต้องการให้พวกเขารู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า พระองค์ต้องการให้พวกเขาเข้าใจเกี่ยวกับการสอนของพระองค์ พระเยซูทรงใช้คำอุปมาเพื่อช่วยสาวกของพระองค์เข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงสอน

พระเยซูรู้ว่าสาวกของพระองค์จะสอนได้ดีขึ้นถ้าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่พระองค์ทรงสอน สาวกของพระองค์รู้ดีว่าพระเยซูจะอธิบายให้พวกเขาเกี่ยวกับคำอุปมานั้น พระเยซูมักจะอธิบายให้พวกสาวกฟังในสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาไม่กลัวที่จะถามพระองค์ในสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ

วันนี้ เราจะเรียนเกี่ยวกับพระเจ้าและพระบุตรของพระองค์คือ พระเยซูคริสต์  คริสตจักรและ ครูของคุณต้องการให้คุณรู้จักเกี่ยวกับพระเจ้าและพระเยซูคริสต์ คุณจำเป็นต้องถามครูของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ ครูของคุณจะดีใจมากที่ได้ช่วยคุณ ครูของคุณจะอธิบายในสิ่งที่คุณไม่รู้

ค. พระเยซูต้องการให้สาวกของพระองค์แบ่งปันในสิ่งที่พระองค์ทรงสอนพวกเขา (มัทธิว 13:52)

พระเยซูตรัสว่าครูทุกคนเป็นเหมือนบุคคลที่เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านไม่สามารถซ่อนทุกสิ่งที่เป็นของตน ทุกสิ่งที่เป็นของเขาในบ้านก็เพื่อให้คนเข้าไปชมและใช้สอย เขามีสิ่งของที่เป็นทั้งของเก่าและของใหม่ บางอย่างก็เป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับเจ้าของ แต่เขาไม่ได้เก็บของที่มีค่าไว้สำหรับตัวเขาเอง เขาแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นให้กับคนอื่นๆ ด้วย

พระเยซูตรัสว่าคนที่เป็นครูจะต้องแบ่งปันสิ่งทีเขาได้เรียนมา ครูจะต้องแบ่งปันในสิ่งที่เขารู้ เขาต้องแบ่งปันสิ่งที่ใหม่และสิ่งที่เก่า สิ่งที่เขาสอนมาจากพระคัมภีร์ใหม่และพระคัมภีร์เดิม พระคัมภีร์เต็มไปด้วยสิ่งที่มีคุณค่าจากพระเจ้า ครูจะต้องแบ่งปันสิ่งที่มีค่าเหล่านี้ให้กับผู้อื่น

วันนี้ เราสามารถเป็นเหมือนสาวกของพระเยซูได้ เราสามารถเรียนรู้ได้จากครู พวกเขาจะสอนเราให้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและพระเยซูคริสต์ พวกเขาจะสอนให้เราเรียนรู้ว่าพระคำของพระเจ้าพูดว่าอะไร สิ่งที่เราเรียนรู้นั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ดังนั้นเราจึงต้องแบ่งปันในสิ่งที่เรารู้ให้กับคนอื่นด้วย

สรุป

  พระเยซูทรงสอนสาวกของพระองค์ในหลายสิ่ง เมื่อพระองค์ทรงสอนพระองค์จะทรงใช้คำอุปมาในการสอน คำอุปมาจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงสอน คำอุปมาช่วยพวกเขาให้เข้าใจถึงเรื่องแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้า

วันนี้เราเรียนรู้จากครูของเรา เขาจะสอนเราให้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและพระเยซูคริสต์ เราสามารถถามเขาได้ในสิ่งที่เราไม่รู้ และเราควรแบ่งปันในสิ่งที่เราเรียนให้กับผู้อื่นด้วย พระคำของพระเจ้าเป็นทรัพย์สมบัติที่มีคุณค่า เราต้องการที่จะแบ่งปันสิ่งมีค่านี้ให้กับผู้อื่นด้วย

คำถาม (จงเติมคำในช่องว่าง)

1. พระเยซูทรงใช้เรื่องราวหรือ _____________________ เมื่อพระองค์ทรงสอน

2. พระเยซูใช้คำอุปมาเพื่อช่วยประชาชนเข้าใจถึงเรื่อง ____________________________________________________________

3. พระเยซูรู้ว่าสาวกของพระองค์สามารถเข้าใจ_________________ ที่พระองค์ทรงสอนได้

4. วันนี้ ผู้เรียนสามารถ____________________ กับเรื่องราวและสามารถ__________ เรื่องราวนั้นได้

5. พระเยซูมักจะใช้คำอุปมาเพื่อ __________________ สาวกของพระองค์

6. พระเยซูทรง ________________ถึงสิ่งที่สาวกของพระองค์ไม่เข้าใจ

7. พระเยซูต้องการให้สาวกของพระองค์ _________________ สิ่งที่พระองค์ทรงสอนเขาให้กับผู้อื่น

8. พระคัมภีร์เป็น ____________________ จากพระเจ้า

คำภามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคิดและเพื่อการอภิปราย

  1. คุณคิดว่าเรื่องราวและคำอุปมาสามารถช่วยคุณให้เข้าใจได้หรือไม่
  2. คำอุปมาสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตของคุณได้อย่างไร
  3. คุณสามารถแบ่งปันหรือสอนเรื่องพระเยซูให้คนอื่นได้อย่างไร
  • คุณเรียนรู้ถึงสิ่งที่มีคุณค่าในพระคัมภีร์หรือไม่ มันคืออะไร คุณได้แบ่งปันเรื่องนี้กับครูและเพี่อนของคุณหรือไม่

ศัพท์สำคัญ

  1. คำอุปมา – เป็นเรื่องราวสั้นๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันซึ่งมีความสำคัญในบทเรียน (พระเยซูมักจะใช้คำอุปมาเมื่อทรงสอนสาวกและประชาชน)
  2. การสอน – เป็นสิ่งที่ครูช่วยให้ประชาชนได้เรียนรู้
  3. แผ่นดินสวรรค์ – แผ่นดินของพระเจ้า (แผ่นดินสวรรค์ซึ่งรวมถึงคนที่มีความเชื่อและเชื่อฟังพระเจ้า แผ่นดินสวรรค์นั้นไม่เหมือนกับสวรรค์)
  4. สาวก – คน 12 คนที่ติดตามพระเยซูเมื่อทรงอยู่ในโลกนี้และช่วยพระเยซูในการทำงานในโลกนี้
  5. ผู้เผยพระวจนะ – บุคคลที่พระเจ้าทรงใช้พูดแทนพระองค์ (ผู้เผยพระวจนะจะพูดในสิ่งที่พระเจ้าต้องจะพูดกับประชากรของพระองค์)
  6. การหว่านเมล็ดพืช – การเอาเมล็ดใส่ลงในดินและมันก็จะงอกขึ้น
  7. สั่งสอน – การบอกกล่าวหรือแสดงให้คนอื่นเห็นว่าทำสิ่งนั้นได้อย่างไร ช่วยให้ประชาชนเรียนรู้ในการทำสิ่งที่ควรทำ
  8. อธิบาย – บอกความหมายของคำหรือสิ่งต่างๆ,  สอน,  บอกให้คนอื่นได้รู้ถึงสิ่งนั้นๆ
  9. แบ่งปัน – การให้, ให้บางสิ่งที่เรามีกับคนอื่น บอกถึงบางสิ่งที่เรารู้ให้กับคนอื่นๆ
  10. สิ่งที่ล้ำค่า – สิ่งที่คนครอบครองและรักสิ่งนั้นมาก และมีความสำคัญมากสำหรับประชาชน


คำสอนของพระเยซู

พิมพ์ครั้งแรกในภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ
“The Teachings of Jesus”
พิมพ์ฉบับภาษาไทยนี้: ฮากิออสพับพลิสซิ่ง และ Global Nazarene Publications
Copyright © J. Wesley Eby

ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้

หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com

Proudly powered by WordPress | Theme: Wanderz Blog by Crimson Themes.