บทเรียนที่ 1
ข้อพระคัมภีร์ท่องจำ : “ในปฐมกาลพระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก”
ปฐมกาล 1:1
ข้อพระคัมภีร์: ปฐมกาล 1:1-23
นานมาแล้วโลกนี้มีแต่ความมืดเหมือนกลางคืน มันยังไม่มีรูปร่างเหมือนโลกปัจจุบันนี้ มันเป็นแต่มวลขนาดใหญ่ของความมืดที่ไม่มีพื้นดินแห้ง แต่มีเพียงน้ำลึกที่อยู่ล้อมรอบ
พระเจ้าผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่ง พระองค์มีแผนและพระองค์คิดว่า “เราจะสร้างโลกสำหรับมนุษย์ได้อยู่อาศัย” แน่นอนตอนนี้ยังไม่มีมนุษย์สักคนเดียว แต่พระองค์ก็ทรงมีแผนการ
พระองค์ไม่เพียงแต่ตัดสินใจที่จะสร้างโลกเพราะพระองค์ต้องการที่จะสร้าง แต่พระองค์เลือกที่จะสร้าง พระเจ้าทรงเป็นความรักและพระองค์ต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อคนอื่น เพื่อให้พวกเขารู้ว่าพระองค์ทรงรักพวกเขา
สิ่งแรกที่พระองค์คิดจะทำคือ “เราต้องทำบางสิ่งบางอย่างกับความมืดนี้” และด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า “จงเกิดความสว่าง” แล้วความสว่างก็เกิดขึ้นในทุกที่ พระองค์ก็เรียกความสว่างว่า “กลางวัน” และเรียกความมืดว่า “กลางคืน” พระเจ้ารู้ว่าต้องมีเวลากลางวันเพื่อให้เด็กๆ ออกไปเล่นข้างนอกได้ และเด็กๆ ก็ต้องการกลางคืนด้วยเพื่อว่าพวกเขาจะได้พักผ่อนและไม่เหนื่อย
พระเจ้าตรัสว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นดี” พระเจ้าทรงพอพระทัย พระเจ้าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในวันแรกของสัปดาห์แห่งการทรงสร้าง
ในวันที่สอง พระเจ้าทรงแยกน้ำ พระองค์ทรงสร้างท้องฟ้าอยู่ด้านบน และให้พื้นน้ำอยู่ด้านล่าง
พระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นน้ำลึกและลึกมาก พระองค์มองไม่เห็นพื้นดินแห้งแม้แต่นิดเดียว พระเจ้ารู้ว่าเมื่อพระองค์สร้างมนุษย์พวกเขาต้องการจะปลูกต้นไม้และดอกไม้ และอีกครั้งหนึ่งที่พระเจ้าตรัสว่า “ให้น้ำมาอยู่รวมกัน แล้วให้แผ่นดินแห้งปรากฏขึ้น” และมันก็เกิดขึ้น
และเมื่อน้ำรวมตัวกันก็ทำให้เกิดมหาสมุทรและทะเล แม่น้ำ ลำธารเล็กๆ และแอ่งน้ำ
ตอนนี้ก็มีแผ่นดินที่เพียงพอสำหรับที่ตั้งของประเทศ เมืองซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์
และมันก็เพียงพอสำหรับพื้นดินและภูเขาใหญ่ เนินเขา พระเจ้าทรงเรียกที่แห้งนี้ว่า “แผ่นดิน” และเรียกพื้นน้ำว่า “ทะเล”
พระเจ้าตรัสว่า “ดี” พระเจ้าทรงพอใจกับสิ่งเหล่านั้นที่เกิดในวันที่สาม
หลังจากนั้นพระเจ้าได้สร้างพืชและต้นไม้ พระองค์ได้สร้างดอกไม้ที่มีสีสรร ต้นไม้สีเขียวที่ให้ผลและต้นไม้ที่สูงเพื่อให้ร่มเงาแก่พื้นดิน ผลไม้ก็มีเมล็ดเพื่อเอาไปปลูกและสามารถให้ผลชนิดเดียวกัน เมล็ดบางอย่างก็โตเป็นต้นมะม่วง บางเมล็ดก็เป็นต้นทุเรียน บางเมล็ดก็โตเป็นผักเช่น ผัดกาด ฟักทอง และบางเมล็ดก็โตขึ้นเป็นดอกไม้ที่สวยงามเช่น ดอกเดซี่ ดอกทานตะวัน
แต่ก็ยังขาดบางสิ่งบางอย่างบนท้องฟ้า
พระเจ้าตรัสว่า “เรารู้ในสิ่งที่เราจะทำ” พระองค์ทรงวางดวงอาทิตย์ไว้บนท้องฟ้าเพื่อให้ส่องสว่างในเวลากลางวัน และดวงจันทร์ ดวงดาวส่องแสงในเวลากลางคืน
พระเจ้าก็ทอดพระเนตรในสิ่งต่างๆ ที่ทรงสร้างขึ้นในวันที่สี่ และทรงเห็นว่า “ดี”
พระเจ้าให้มีปุยเมฆในท้องฟ้า ซึ่งเป็นเมฆที่ขาวและดวงอาทิตย์ที่สดใส แต่ก็ยังไม่มีนกบินในอากาศ และเบื้องล่างที่เป็นพื้นดิน มหาสมุทร แม่น้ำก็ยังไม่มีปลาที่ว่ายไปมาในน้ำ
และแล้วพระเจ้าก็สร้างสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเล ทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ และรวมทั้งปลาที่พ่นน้ำ
และพระองค์ก็ได้สร้างนกที่บินในอากาศชนิดต่างๆ เช่น นกนางเค้าแมว นกขุนทอง นกแก้ว
แล้วพระเจ้าก็ทรงพอใจในสิ่งที่ทรงสร้างในวันที่ห้า พระองค์ได้สร้างสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยในโลกที่สวยงาม พระเจ้าตรัสว่า ทุกสิ่งที่ทรงสร้างนั้น “ดี”
เมื่อเราอาศัยอยู่ในโลกนี้เราไม่มีวันรู้เลยว่าพระเจ้าได้สร้างโลกนี้ขึ้นมาอย่างไร แต่พระคัมภีร์ได้บอกเราเรื่องการทรงสร้างสิ่งเหล่านี้ สักวันหนึ่งเมื่อเราไปสวรรค์เราก็สามารถถามพระองค์ได้เกี่ยวกับสิ่งทั้งปวงนี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์แห่งการทรงสร้างที่อัศจรรย์มากๆ
วัตถุประสงค์ของบทเรียน พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์ผ่านทางการทรงสร้างที่สวยงามของพระองค์
 | Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License (CC BY-NC-ND 4.0) Copyright © 2023 Rooster Media. Permission is hereby granted, free of charge, to any person obtaining a copy of “Walking With Jesus” (the “Work”) to copy and distribute the Work without modification, strictly for non-commercial purpose walkingwithjesusthailand@gmail.com |
หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com