พระเยซูสอนเกี่ยวกับการฟัง

บทที่ 3

ใครมีหู จงฟังเถิด
มัทธิว 13:9

ข้อพระคัมภีร์ที่ใช้ในบทเรียน

มัทธิว 13:3-9, 18-23

วันหนึ่ง พระเยซูกำลังสอนอยู่ที่ริมทะเลสาบ คนก็สนใจเพิ่มมากขึ้นๆ ฝูงชนก็อยู่รอบๆ พระเยซู พระเยซูลงไปในเรือและนั่งลง ประชาชนก็ฟังเมื่อพระองค์ทรงสอน

ในฝูงชนกลุ่มนี้มีคนหลากหลายประเภท พระเยซูทรงสอนเขาด้วยคำอุปมา ในแต่ส่วนของคำอุปมาก็มีเรื่องและกลุ่มคนที่แตกต่างกัน

  • คนที่หว่านเมล็ดพืชเป็นคนที่สำคัญมาก (มัทธิว 13:3)

คำอุปมานี้เกี่ยวกับชาวนาผู้หว่านเมล็ดพืช  คำอุปมาเรื่องนี้บอกให้เราทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมล็ดพืชเหล่านั้น ชาวนานั้นเป็นคนที่สำคัญมาก เขาหว่านเมล็ดพืชลงบนพื้นดิน ต้นไม้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกระทั่งชาวนาได้นำเมล็ดหว่านหรือนำเมล็ดฝังลงในดิน

คริสเตียนก็เปรียบเสมือนชาวนา พระวจนะของพระเจ้าก็เปรียบเหมือนเมล็ดพืช คริสเตียนต้องประกาศหรือหว่านพระวจนะของพระเจ้าเหมือนกับชาวนาที่หว่านเมล็ดพืช เราจำเป็นต้องบอกกับผู้คนว่าพระเจ้าทรงรักพวกเขา เราต้องบอกพวกเขาว่าจะเป็นคริสเตียนได้อย่างไร

  • ชนิดของดินก็เป็นส่วนที่สำคัญ (มัทธิว 13:4-8, 18-23)

พระเยซูเล่าถึงดินสี่ชนิด พระเยซูได้อธิบายให้กับสาวกของพระองค์ว่าเรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร ดินสี่ชนิดก็เปรียบเหมือนคนที่ฟังพระคำของพระเยซูก็มีสี่ชนิดเช่นเดียวกัน  เมล็ดพืชเป็นเหมือนพระคำของพระเยซู

ดินชนิดแรกเป็นดินที่อยู่ริมสวน เป็นดินที่แข็ง เมล็ดพืชไม่สามารถตกลงไปในพืชดิน เมล็ดพืชเพียงตกลงและอยู่บนผิวหน้าดินเท่านั้น ดังนั้นเมื่อนกบินมาก็จะกินเมล็ดนั้นเสีย

บางคนก็เป็นเหมือนดินชนิดนี้ พวกเขาไม่ต้องการฟังคำของพระเยซู คนจำพวกนี้ไม่ต้องการเข้าใจถึงสิ่งที่พระเยซูสอน จิตใจและหัวใจของพวกเขาก็แข็งเหมือนดินชนิดนี้ ดังนั้นวิญญาณชั่วจึงมาและนำพระคำของพระเจ้าไปจากเขา

ดินชนิดที่สองเป็นดินที่เหมือนก้อนหิน ดินชนิดดูเหมือนจะเป็นดินดีแต่มันก็ไม่ดีดังที่คิด บนหน้าดินนั้นเต็มไปด้วยก้อนหิน เมื่อเมล็ดเริ่มเติบโตรากของมันก็ไม่สามารถหยั่งลึกได้เพราะดินเป็นก้อนหิน ลำต้นของมันไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ ในที่สุดมันก็ตาย

บางคนก็เป็นเหมือนดินที่เต็มไปด้วยก้อนหิน    ผู้คนเหล่านี้เชื่อในพระเยซู เขายินดีที่เขาเป็นคริสเตียน แต่เมื่อเขาตกงาน ลูกของเขาป่วย เมื่อเขาสูญเสียเพื่อน พวกเขาเหล่านี้จะละทิ้งความเชื่อที่มีในพระเยซูคริสต์

ดินชนิดที่สามที่มีหนามและวัชพืชปกคลุม  เมื่อเมล็ดเริ่มเติบโต หนามและวัชพืชก็ยับยั้งต้นอ่อนนั้นเสีย ต้นอ่อนนั้นก็ไม่สามารถหาอาหารเพื่อการเติบโตต่อไปได้ และก็จะตายในที่สุด

บางคนก็เป็นเหมือนดินชนิดนี้ พวกเขาเชื่อในพระเยซู เขาทำงานเพื่อพระองค์ พวกเขาตั้งใจที่จะพยายามทำความดี แต่บางครั้งเขายุ่งมากจนไม่มีเวลาอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ เขาคิดมากเกี่ยวกับหลายสิ่งในชีวิต พวกเขารักเงินและสิ่งที่เงินสามารถซื้อได้ เขาไม่สนใจอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ ความต้องการในชีวิตก็ครอบงำพวกเขา ในไม่ช้าเขาก็ตายฝ่ายจิตวิญญาณ

ดินชนิดที่สี่ซึ่งเป็นดินดี ซึ่งเป็นดินที่ไม่แข็งและไม่มีก้อนหิน ดินชนิดนี้ไม่มีหนามหรือวัชพืช พืชจึงสามารถเติบโตได้ ชาวนาก็จะมีทุ่งนาที่สวยงามและมีผลผลิตที่ดี

คนที่เป็นเหมือนดินชนิดนี้ เขาฟังในสิ่งที่พระเยซูพูด เขาเชื่อในพระองค์และเชื่อฟังในสิ่งที่พระเยซูสอน เขาอธิษฐานและอ่านพระคัมภีร์ พวกเขาช่วยผู้อื่นให้มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์และช่วยผู้อื่นให้เข้าส่วนในแผ่นดินสวรรค์ พวกเขามีทุ่งนาแห่งประชากรของพระเจ้าที่เกิดผล

  • พระเยซูคริสต์สอนว่าเราจำเป็นต้องเป็นผู้ฟังที่ดี (มัทธิว 13:9)

พระเยซูตรัสว่า “ใครมีหู ก็จงฟังเถิด” (9)  พระเยซูหมายถึงเราจะต้องฟังและเชื่อฟังในพระองค์ เราต้องตัดสินใจว่าเราจะเป็นคนประเภทไหน ไม่มีใครที่จะตัดสินใจแทนเราได้ เราต้องตัดสินใจด้วยตัวเราเอง เราจำเป็นต้องขอพระเจ้าที่จะช่วยเราให้เราเป็นเหมือนดินที่ดี

เราจำเป็นต้องเป็นผู้ฟังที่ดีตลอดเวลา เราต้องฟังศิษยาภิบาลของเราเอง เราต้องฟังครูที่สอนรวีวารศึกษา เราจำเป็นต้องฟังเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เราจำเป็นต้องฟังด้วยหูและหัวใจของเรา

สรุป

พระเยซูสอนเราเกี่ยวกับการฟัง มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการเป็นผู้ฟังที่ดี เราต้องเรียนรู้ในการเป็นผู้ฟังที่ดี เราจำเป็นต้องขอพระเยซูเพื่อช่วยเราให้เราเข้าใจในสิ่งที่เราได้ยิน เราต้องขอพระองค์ที่จะช่วยเราให้เราเชื่อฟังในสิ่งที่เราได้ยิน เมื่อนั้นพระคำของพระเจ้าก็จะเติบโตขึ้นในชีวิตของเราซึ่งเป็นดินที่ดี

คำถาม  :    เติมคำในช่องว่าง

  1. _________________________ เป็นเหมือนชาวนา  ___________________ เป็นเหมือนเมล็ดพืช
  2. คริสเตียนมีหน้าที่ __________________________ เหมือนชาวนาที่ต้องหว่านเมล็ดพืช
  3. พระเยซูได้เล่าเรื่อง_______________ กี่ชนิด___________________________
  4. บางคนเป็นเหมือนดินที่แข็งกระด้าง____________________ ก็มาและเอา __________  ไปจากเขา
  5. บางคนเป็นเหมือนดินที่มีแต่ก้อนหิน พวกเขาเชื่อใน___________________ แต่เมื่อเขามี ______________________ ความ _________ ในพระเยซูของเขาก็ตายไป
  6. บางคนเป็นเหมือนดินที่มีขวากหนามและวัชพืช ความต้องการส่วนตัวของเขาจะ __________________ การเติบโตของเขา _____________ ก็จะตาย
  7. บางคนก็เป็นเหมือนดินดี พวกเขาจะมี ________________________สำหรับพระเจ้า
  8. พระเยซูสอนเราเพื่อเราจะเป็น ____________________ที่ดี ความหมายของพระองค์คือให้เราจะต้องฟังและ ____________________พระองค์

คำภามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคิดและเพื่อการอภิปราย

  1. คุณเป็นดินประเภทไหน
  2. จิตวิญญาณของมนุษย์ตายได้อย่างไร
  3. คริสเตียนสามารถมีทุ่งนาของพระเจ้าได้อย่างไร
  4. คุณจะเป็นผู้ฟังที่ดีได้อย่างไร
  • มนุษย์จะฟังด้วยหัวใจของเขาได้อย่างไร

ศัพท์สำคัญ

  1. หว่านพระคำของพระเจ้า       บอกคนอื่นถึงสิ่งที่พระคัมภีร์ได้กล่าวเอาไว้ , พยายามช่วยคนอื่นให้เข้าใจในสิ่งที่พระเยซูคริสต์สอน
  2. วิญญาณชั่ว     ซาตาน สิ่งที่เป็นศัตรูกับพระเจ้า เป็นอำนาจที่มาจากวิญญาณชั่ว
  3. ยับยั้ง บางสิ่งที่ขัดขวางการเจริญเติบโต
  4. จิตวิญญาณ    บางสิ่งที่ระบุถึงพระวิญญาณของพระเจ้าหรือพระวิญญาณบริสุทธิ์
  5. ทุ่งนา   การเพาะปลูกที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นอาหาร (ทุ่งนาของพระเจ้าคือบางคนที่เชื่อในพระเจ้าและรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด)
  6. ผู้ฟัง    คนที่ได้ยิน คนที่ฟัง คนที่เข้าใจและเชื่อในพระเยซูคริสต์

คำสอนของพระเยซู

พิมพ์ครั้งแรกในภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ
“The Teachings of Jesus”
พิมพ์ฉบับภาษาไทยนี้: ฮากิออสพับพลิสซิ่ง และ Global Nazarene Publications
Copyright © J. Wesley Eby

ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้

หากคุณต้องการเริ่มการสนทนากับบุคคลอื่นโปรดคลิกลิงค์ด้านล่าง
walkingwithjesusthailand@gmail.com